สรุปความรู้จากการประชุม Prevention Preadiction and Promotion in Perination Health
สรุปความรู้ที่ได้รับจากการไปพัฒนาตนเอง
วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
ชื่อ-สกุล นางจันทร์เพ็ญ อามพัฒน์ ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
สังกัดภาควิชา การพยาบาลสูติศาสตร์
เข้าร่วมประชุมเรื่อง Prevention Preadiction and Promotion in Perination Health
วันเดือนปี 12 – 14 ตุลาคม 2554
หน่วยงานที่จัด สมาคมเวชศาสตร์ปริกำเนิดแห่งประเทศไทย
สถานที่ โรงแรมจอมเทียนปาล์มบีช โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จ. ชลบุรี
สรุปความรู้และแนวคิดที่ได้รับคือ
Workshop การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การศึกษากายวิภาคศาสตร์ของเต้านมแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยการทำ Ultrasound imaging พบว่า กายวิภาคศาสตร์ของเต้านมที่ใช้มานานกว่า 150 ปีไม่ถูกต้อง สิ่งที่พบใหม่คือ ท่อน้ำนมมีเพียง 4-18 ท่อ และอยู่ใต้บริเวณลานหัวนม ไม่มีกระเปาะของท่อน้ำนม แต่เป็นเพียงการบางออกชั่วคราวของท่อน้ำนมเมื่อมีน้ำนมหลั่งจากฮอร์โมนออกซิโตซิน และแฟบเมื่อน้ำนมไหลออกทางหัวนม ดังนั้นทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของคำแนะนำและการปฏิบัติเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หลายอย่าง คือ
- การให้ลูกงับหัวนมเวลาดูดนม เปลี่ยนจากการแนะนำให้งับลานหัวนมจนถึงกระเปาะน้ำนมอยู่ในช่องปาก เป็นให้ทารกอ้าปากกว้างเมื่องับลานหัวนมแม่ ซึ่งสังเกตจากริมฝีปากบนและล่างอยู่ห่างกันชัดเจน
- เน้นท่าอุ้มดูดนมให้ถูกต้อง เพื่อกระตุ้น Let down reflex ให้น้ำนมมาดี
- การบีบนมจากเต้า ไม่วางมือบนกระเปาะน้ำนมแล้ว เนื่องจากสรีระที่บอกว่าไม่มีกระเปาะแล้ว แต่ให้วางนิ้วมือห่างจากฐานหัวนม 3-4 เซนติเมตร
- การบีบ/ปั๊มนมต้องไม่กดบริเวณลานหัวนมแรงเกินไป เพราะทำให้ท่อน้ำนมตีบ ซึ่งส่งผลให้น้ำนมไหลน้อยลง
- การผ่าตัดเต้านมต้องระวังการตัดถูกท่อน้ำนม เนื่องจากท่อน้ำนมมีน้อยท่อ (มีเพียง 4-18 ท่อ)
บทบาทของสูติศาสตร์ต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
สูติแพทย์และหญิงตั้งครรภ์ต่างก็มีบทบาทที่จะช่วยทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมของเต้านมและหัวนมในระยะฝากครรภ์ แนวทางการดูแลขณะคลอดและวิธีระงับอาการเจ็บปวดซึ่งอาจส่งผลต่อการให้นมแม่หลังคลอด ตลอดจนผลกระทบของการสั่งยาชนิดต่าง ๆ ให้แก่คุณแม่หลังคลอด ในบางแห่งมีการแนะนำการเขียนเป็นแผนการคลอด (birth plan) เพื่อให้คุณแม่และคุณพ่อได้มีส่วนร่วมในการวางแผนคลอด ตลอดจนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับแพทย์ ซึ่งการตัดสินใจให้การดูแลรักษาต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ด้วย
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำเร็จแน่ ไม่ใช่ฝัน
การให้นมแม่เป็นเรื่องของแม่และลูก ถ้าจะให้สำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือ โดยเริ่มจากแม่และลูกเป็นหนึ่งเดียวกัน แม่เข้าใจพฤติกรรมของลูก เรียนรู้ที่จะตอบสนองได้ตรงตามที่ลูกต้องการ ทารกในช่วงแรกเกิดเป็นช่วงที่มีความรู้สึกเปราะบาง ถ้ามีการรบกวนขบวนการที่ทารกจะเริ่มดูดนมแม่ เช่น แม่ลูกต้องแยกกันด้วยเรื่องของความเจ็บป่วย ก็อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาได้ การที่แม่และลูกได้พบกันในช่วงแรกนั้นเราไม่ได้ต้องการให้ทารกได้อาหาร แต่ต้องการให้แม่และลูกได้สัมผัสกันหรือแม่ได้มองเห็นลูก เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในช่วงนี้ พวกเราจะเป็นเพียงผู้ช่วยแนะนำให้แม่เห็นว่า การให้นมแม่เป็นสิ่งที่แม่ทำด้วยความสุขและรื่นรมย์ได้ ลูกนั้นเก่งเพียงไรสามารถทำอะไรได้หลายอย่างที่เรานึกไม่ถึง สามารถคุยกับลูกแบบประจันหน้าและสบตากับลูกได้อย่างไร นอกจากนั้นต้องอาศัยความอดทนและความสงบที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำได้ง่ายจัง
น้ำนมแม่เป็นอาหารธรรมชาติที่ดีที่สุดสำหรับทารก มีสารอาหารต่าง ๆ มากกว่า 200 ชนิดที่มีความจำเพาะสำหรับทารก มีสัดส่วนที่เหมาะสมทั้งปริมาณและคุณภาพ ปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของทารกได้ทุกระยะของการเจริญเติบโต มีภูมิคุ้มกันและสารต้านการอักเสบ ลดการเกิดภูมิแพ้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเสริมสร้างพัฒนาสมองและเสริมสร้างไอคิว ทารกจะมีอารมณ์ดี และลดปัญหาสุขภาพเมื่อโตขึ้น สร้างสายใยความรักและความผูกพันระหว่างแม่กับลูก ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังคลอดต่าง ๆ เช่นตกเลือดหลังคลอด มดลูกเข้าอู่เร็ว รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลางานบ่อยเพื่อไปดูแลลูกที่เจ็บป่วย
แม้ว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นวิถีของธรรมชาติก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องที่ง่ายเสมอไปที่จะทำให้แม่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีปัจจัยหลายประการที่มาเกี่ยวข้อง
คำแนะนำ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- สอนแม่ให้อุ้มลูกดูดนม (4 ท่า) ให้ถูกต้อง รวมถึงวิธีการจับเต้านมเข้าปากลูกด้วย
- ให้ลูกดูดกระตุ้น 8-12 มื้อต่อวัน
- ควรให้ลูกดูดนมเมื่อทารกแสดงอาการหิว ได้แก่ การตื่นตัว (alertness) มากขึ้น การเคลื่อนไหว (physical activity) มากขึ้น การทำท่าดูดนม (mouthing) หันปากหาหัวนม (rooting) ไม่ควรรอจนกระทั่งลูกร้อง เพราะการร้องเป็นอาการแสดงท้ายสุดของความหิว
- ให้ดูดนานจนกระทั่งลูกพอใจ ปรกติให้ดูดแต่ละเต้านาน 10-15 นาที
- การเริ่มต้นการดูดแต่ละมื้อ ให้ดูดสลับเต้าที่เริ่มต้นดูดในมื้อที่แล้ว โดยในสัปดาห์แรกๆ หลังคลอด แม่อาจต้องปลุกลูกให้ดูดนม หากลูกเว้นช่วงตื่นเพื่อดูดนมแต่ละมื้อนานเกินไป
- ให้แม่มีความอดทนมาก ๆ
- ถ้ามีโอกาสให้เลือกแพทย์และโรงพยาบาลที่สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจัง