ความก้าวหน้าในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
ความก้าวหน้าในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
ดร.ศรีสกุล เฉียบแหลม
การจัดการความรู้วันที่ 29 ตุลาคม 2555 ผู้ร่วมประชุม ได้แก่
1. นางวราภรณ์ จรเจริญ
2. นางวารุณี สุวรวัฒนกุล
3. นางสาวสายใจ จารุจิตร
สาระที่ได้จากการเข้าร่วมประชุมวิชาการประจำปี 2555 ณ โรงพยาบาลสระบุรี (วันที่ 8 -10 สิงหาคม 2555)
- โรคเรื้อรัง หมายถึงอะไร
โรคที่เป็นมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือโดยกำเนิด เป็นโรคที่ไม่ติดต่อหรือโรคติดต่อ ซึ่งต้องการดูแล
ระยะยาวอย่างเป็นระบบ อาจมีโอกาสหายกลับสู่ภาวะปกติได้
- โรคเรื้อรัง ได้แก่โรคอะไรบ้าง
- Stoke ( เสียชีวิตอันดับ 1)
- Hypertersion
- CA
- Chronic Respiratory Disease
- DM.
- Mental disorders
- Oral disease
- Bone &Joint
- Genetic disorders
โรคเรื้อรังที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ HT DM CA Chr. respiratory และ Renal failure ตามลำดับ
- ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง ได้แก่ บุคคลที่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา ไม่ออกกำลัง
การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม
การดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังในมิติจิตวิญญาณ (Spirituality) คือ การดูแลตั้งแต่ป่วยเรื้อรังจนกระทั่งเสียชีวิต
แนวคิดการดูแล คือ ทำอย่างไรจึงจะให้ผู้ป่วยตายอย่างสงบ ไม่ทรมาน
Dealth & Dying is involved
- human right and ethics
- belief and religious practice
- Love and connectedness
- loss and separation
การเยียวยาผู้ป่วยให้มีความหวังอย่างมีประสิทธิภาพ (Healing in chronic patient)
การดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบองค์รวม ต้องอาศัยองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่
1. ปัญญา แยกแยะความดี – ชั่วได้
2. ความเมตตา สื่อสารกับผู้ป่วยด้วยความเมตตา กรุณา ด้วยความเข้าใจและเห็นใจ
3. ความเอื้ออาทร สื่อสารทาง eye contract and body language
สรุป
การดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (Chronic Illness) ควรเน้นการดูแลแบบเกาะติด คือ ต้องทำอย่างต่อเนื่องไม่ใช่ตามกระแส มีความเด็ดขาดและตรงเป้าในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
เสริมความรู้เรื่องการดูแลโรคความดันโลหิตสูงครับ ตอนนี้มีแนวทางการดูแลจากหลายค่าย ทั้งอเมริกา อังกฤษ แค่นาดา รวมถึงไทยเองก็พยายามพัฒนาแนวทางที่ล้อตามของต่างประทศแต่ให้เหมาสมกับไทย ดังนั้นเวลาให้การดูแลผู้ป่วยเหล่านี้จึงต้องพิจารณาแนวทางเหล่านั้นด้วยครับ (เช่นการให้ยาแบบผสม) ทั้งนี้แนวทางของอเมริกาหรือ JNC 8 กำลังจะออกมา คงต้องมีการติดตามความรู้ให้ทันสมัย