การใช้ทฤษฎีการจัดการตนเองในการวิจัยโรคเรื้อรัง (ครั้งที่ 1)
วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
รายงานการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
CoP การจัดการความรู้ชุมชนนักปฏิบัติ ฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 14.00 – 16.00 น.
ณ อาคารเอนกประสงค์ วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
1.เรื่อง การใช้ทฤษฎีการจัดการตนเองในการวิจัยโรคเรื้อรัง (ครั้งที่ 1)
2.วัตถุประสงค์ในการดำเนินการวิจัยครั้งนี้
เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การใช้ทฤษฎีการจัดการตนเองในการวิจัยโรคเรื้อรัง
3.ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จำนวน 31 ท่าน ได้แก่
- ดร.ชดช้อย วัฒนะ วิทยากร
- ดร.ยศพล เหลืองโสมนภา ประธานกลุ่ม
- อ.เพ็ญนภา พิสัยพันธุ์
- อ.คณิสร แก้วแดง
- ดร.ธัสมน นามวงษ์
- อ.จีราภา ศรีท่าไฮ
- อ.บุษยารัตน์ ลอยศักดิ์
- อ.รัชสุรีย์ จันทเพชร
- อ.ปาลีรัญญ์ ฐาสิรสวัสดิ์
- อ.นวนันท์ ปัทมสุทธิกุล
- อ.สุกัญญา ขันวิเศษ
- อ.นุชนาถ ประกาศ
- อ.ปัทมา บุญช่วยเหลือ
- อ.อรพรรณ บุญลือ
- อ.ศศิโสภิต แพงศรี
- อ.สุภา คำมะฤทธิ์
- อ.รสสุคนธ์ เจริญสัตย์ศิริ
- อ.วรัญญา ชลธารกัมปนาท
- อ.ธันยพร บัวเหลือง
- อ.กมลณิชา อนันต์
- อ.อรัญญา บุญธรรม
- อ.มงคล ส่องสว่างธรรม
- อ.นันทวัน ใจกล้า
- อ.จันจิรา หินขาว
- อ.จันทรมาศ เสาวรส
- อ.รัชชนก สิทธิเวช
- อ.สุมาลี ราชนิยม
- อ.วิภารัตน์ ภิบาลวงษ์
- อ.โศภิณศิริ ยุทธวิสุทธิ
- อ.นิศารัตน์ รวมวงษ์
- อ.กฤษณี สุวรรณรัตน์ เลขานุการ
กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ประเด็นสำคัญ |
สาระสำคัญ/ประเด็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (เรื่องเล่าความสำเร็จ) |
อ้างอิง (ชื่อ-สกุล) |
1.ความหมายของแนวคิด Self-management | การเรียนรู้ การฝึกทักษะการเผชิญปัญหา การปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินชีวิตของการเจ็บป่วยโรคเรื้อรังความสามารถในการจัดการกับความเจ็บป่วย ด้านร่างกายและจิตใจจากการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง การควบคุมโรค/ลดผลกระทบจากโรค
แนวคิด Self-management สามารถสรุปเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ (critical attributes) ได้ดังนี้ 1. การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้จริง (Realistic personal goal setting) การตั้งเป้าหมาย อาจตั้งเพื่อให้บรรลุ Intermediate outcome ก่อนหรือตั้งเพื่อบรรลุ Optimal outcome จากการทบทวนงานวิจัยพบว่าควรเริ่มจากการตั้งเป้าหมายระยะสั้นเพื่อให้สำเร็จได้ง่ายและเกิดกำลังใจในการจัดการตนเองอย่างต่อเนื่องสู่ความสำเร็จที่เป็นเป้าหมายสุดท้าย โดยการตั้งเป้าหมาย ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง/ญาติต้องกระทำร่วมกับทีมสุขภาพ 2. การลงมือปฏิบัติ (Conduct action to control illness and monitoring progress) เป็นการลงมือปฏิบัติ พฤติกรรมหรือกระทำกิจกรรม ร่วมกับเฝ้าระวัง (สังเกตและบันทึก) สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติ 3. การตัดสินใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้บรรลุเป้าหมาย (Making adjustment to goal attainment) การปรับพฤติกรรมหรือกิจกรรมสามารถกระทำได้หลังจากที่ได้ลงมือปฏิบัติและสังเกตพบว่าวิธีที่ปฏิบัติยังไม่สามารถทำให้บรรลุ
เป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดยังอยู่สูงเกินเป้าหมายที่กำหนดแม้จะปรับวิธีการรับประทานอาหารแล้ว จึงปรับเปลี่ยนวิธีใหม่เช่น ลดการรับประทานอาหารบางชนิดหรือเพิ่มจำนวนครั้งและระยะเวลาการออกกำลังกายให้มากขึ้นและติดตามเฝ้าระวังระดับน้ำตาลในเลือดใหม่เพื่อนำผลมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ จนบรรลุเป้าหมาย
|
เอกสารประกอบการประชุมเรื่อง “การใช้ทฤษฎีการจัดการตนเองในการวิจัยโรคเรื้อรัง” |
2. การทำความเข้าใจในแนวคิดการจัดการตนเองเพื่อนำไปประยุกต์ใช้
|
ตัวอย่างการวิเคราะห์แนวคิดการจัดการตนเองเกี่ยวกับโรคเบาหวาน (Concept analysis of diabetes self-management) สรุปได้ดังนี้
การสร้างเครื่องมือการวิจัยเช่น การวัดพฤติกรรมการจัดการตนเอง ให้คำนึงถึง attribute หลักของ concept โดยข้อคำถามต้องปรากฏองค์ประกอบสำคัญของแนวคิดนั้นๆ
|
เอกสารประกอบการประชุมเรื่อง “การใช้ทฤษฎีการจัดการตนเองในการวิจัยโรคเรื้อรัง” |
3. ชนิดของงานวิจัย เชิงทดลองหรือกึ่งทดลอง ที่ใช้แนวคิด Self-management | 3.1 Self-management educationเน้นการให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการตนเอง ซึ่งต้องการความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและพยาธิสภาพ อาการอาการแสดง หลักในการปฏิบัติเพื่อการจัดการตนเองให้ไปสู่เป้าหมายที่กำหนด เป็นต้น
3.2 Self-management training เน้นการฝึกทักษะที่จำเป็นในการควบคุมโรคหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเฉพาะเพื่อจัดการกับความเจ็บป่วย/ปัญหาสุขภาพ เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับโรค/ปัญหาสุขภาพนั้นๆ
|
เอกสารประกอบการประชุมเรื่อง “การใช้ทฤษฎีการจัดการตนเองในการวิจัยโรคเรื้อรัง” |
4.How to support self-management?ตัวอย่าง โปรแกรมการจัดการตนเองสำหรับผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูง | การออกแบบการวิจัยต้องคำนึงถึงองค์ประกอบของแนวคิดการจัดการตนเองที่นำมาเป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยและ guide intervention กิจกรรมหลักของ intervention ต้องฝึกการจัดการตนเองในเรื่องต่อไปนี้1. การกำหนดเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อควบคุมความดันโลหิตให้ได้ตามเกณฑ์
2. การรวบรวมข้อมูล อาการ/อาการที่แสดงถึงความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น 3. การวิเคราะห์ประเมินสาเหตุและแนวทางป้องกัน/แก้ไข 4. ตัดสินใจ ในการปฏิบัติพฤติกรรมอย่างเหมาะสม เพื่อควบคุมโรค 5. การปฏิบัติตนเพื่อควบคุมโรค ตามเป้าหมายที่กำหนด 6. ติดตามประเมินผลการควบคุมโรค/และปรับพฤติกรรมให้สามารถควบคุมโรคและระดับความดันโลหิตได้ตามเป้าหมาย
|
เอกสารประกอบการประชุมเรื่อง “การใช้ทฤษฎีการจัดการตนเองในการวิจัยโรคเรื้อรัง” |
ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรมนี้
กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ทำให้ทราบเกี่ยวกับความหมายของแนวคิด Self-management องค์ประกอบที่สำคัญของแนวคิด และการนำ หลัก Self-management ไปใช้ในการทำวิจัย
แนวทางการนำความรู้ไปใช้
1. การนำหลัก Self-management ไปใช้ในการทำวิจัย
- การทำความเข้าใจแนวคิด/ความหมาย
- การพิจารณาองค์ประกอบ
- ออกแบบการวิจัยตามปัญหาการวิจัย โดยคำนึงถึง critical attributes, antecedent conditions, consequences, and empirical references ซึ่งสามารถศึกษาทั้งในวิจัยเชิงสำรวจ เชิงความสัมพันธ์ ปัจจัยทำนาย การวิจัยเชิงทดลอง/กึ่งทดลอง (การสร้างโปรแกรม) การวิจัยเชิงคุณภาพ หรือการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
2. การจัดทำเป็นแนวปฏิบัติการทำวิจัยโดยใช้แนวคิดการจัดการตนเอง Self-management
จบกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เวลา 16.00 น.
ผู้จดบันทึก
อ.กฤษณี สุวรรณรัตน์
ดร.ยศพล เหลืองโสมนภา
อ.จีราภา ศรีท่าไฮ
อ.ศศิโสภิต แพงศรี
ผู้ตรวจสอบ
ดร.ชดช้อย วัฒนะ