สรุปความรู้จากการประชุม Advanced course in breastfeeding : common problems in breastfed infants
สรุปความรู้ที่ได้รับจากการไปพัฒนาตนเอง
วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
ชื่อ-สกุล นางจันทร์เพ็ญ อามพัฒน์ ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
สังกัดภาควิชา การพยาบาลสูติศาสตร์
เข้าร่วมประชุมเรื่อง Advanced course in breastfeeding : common problems in
breastfed infants
วันเดือนปี 2 – 5 ตุลาคม 2554
หน่วยงานที่จัด ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย
สถานที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
สรุปความรู้และแนวคิดที่ได้รับคือ
การให้นมแม่อย่างเดียวในระยะ 2-3 วันแรกหลังคลอด มีความสัมพันธ์กับการเกิด breastfeeding jaundice จากการได้รับน้ำนมไม่พอ American Academy of Pediatrics (AAP) และองค์การอนามัยจึงแนะนำว่าเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมแม่และเพื่อให้ทารกได้น้ำนมเพียงพอ ควรให้ทารกดูดนมแม่โดยเร็วภายใน 1 ชั่วโมงหลังเกิด และดูดนมแม่ 8-12 มื้อต่อวัน ให้ดูดนาน 10-15 นาทีต่อเต้า และให้ดูดทั้งสองเต้าทุกมื้อ เพื่อให้ทารกได้น้ำนมเพียงพอ และกระตุ้นการสร้างน้ำนมของแม่ ปลุกให้ทารกตื่นดูดนม หากเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมงหลังจากเวลาที่ทารกเริ่มดูดนมมื้อล่าสุด
ทารกแรกเกิดทุกคนทั้งที่ไม่ป่วยและเจ็บป่วยขณะอยู่ในโรงพยาบาลต้องได้รับการชั่งน้ำหนักอย่างน้อยวันละครั้งในเวลาเดียวกันทุกวัน ซึ่งทารกแรกเกิดจะมีการลดลงของน้ำหนักตัวที่เป็นภาวะปรกติ (physiologic weight loss) ได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของน้ำหนักแรกเกิด หลังจากนั้นน้ำหนักของทารกแรกเกิดจะเพิ่มวันละ 30 กรัม/วัน
คำแนะนำ เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนม
- สอนแม่ให้อุ้มลูกดูดนมให้ถูกต้อง
- ให้ลูกดูดกระตุ้น 8-12 มื้อต่อวัน
- ควรให้ลูกดูดนมเมื่อทารกแสดงอาการหิว ได้แก่ การตื่นตัว (alertness) มากขึ้น การเคลื่อนไหว (physical activity) มากขึ้น การทำท่าดูดนม (mouthing) หันปากหาหัวนม (rooting) ไม่ควรรอจนกระทั่งลูกร้อง เพราะการร้องเป็นอาการแสดงท้ายสุดของความหิว
- ให้ดูดนานจนกระทั่งลูกพอใจ ปรกติให้ดูดแต่ละเต้านาน 10-15 นาที
- การเริ่มต้นการดูดแต่ละมื้อ ให้ดูดสลับเต้าที่เริ่มต้นดูดในมื้อที่แล้ว
- ในสัปดาห์แรกๆ หลังคลอด แม่อาจต้องปลุกลูกให้ดูดนม หากลูกเว้นช่วงตื่นเพื่อดูดนมแต่ละมื้อนานเกิน 4 ชั่วโมง
ปัญหาที่พบบ่อยในทารกเมื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- นมแม่ไม่พอในวันแรกๆหลังคลอด
หากแม่มีน้ำนมไม่พอ ควรปฏิบัติดังนี้
- ให้ลูกดูดกระตุ้นร่วมกับการใช้ dropper หยอดนมผสมที่ลานหัวนมหรือใช้วิธีกาลักน้ำ
- โดยปริมาณของนมผสมคำนวณตามสูตรดังนี้
20-30 มล. ´ น้ำหนักแรกเกิด(เป็นกิโลกรัม) ´ อายุ(นับเป็นวัน) / จำนวนมื้อนม
- ประคับประคองแม่ไม่ให้เครียด และอย่าปล่อยให้ลูกร้องกวน
- ห้ามให้น้ำเปล่าหรือน้ำกลูโคส
- ภาวะลิ้นถูกยึดตรึง (Tongue – tie)
Tongue – tie หมายถึงภาวะที่ frenulum ยื่นใกล้ปลายลิ้นมากกว่าปรกติสั้นและ/หรือหนากว่าปรกติ มีผลให้ด้านล่างของลิ้นถูกยึดกับพื้นของปาก และการเคลื่อนไหวของลิ้นถูกจำกัด ภาวะนี้เป็นแต่กำเนิด ความรุนแรงของปัญหาขึ้นกับความรุนแรงของ tongue-tie และลักษณะหัวนมและเต้านมของแม่
การรักษา
- Frenotomy (frenulotomy) เสียเลือด 1-2 หยด หลังการรักษาแม่รู้สึกดีขึ้นทันทีหลังผ่าตัด
ความเจ็บปวดที่หัวนมลดลงหรือหายไป แรงดูดนมของลูกเพิ่มขึ้น ลูกดูดนมแต่ละมื้อได้น้ำนมมากขึ้น
- ตัวเหลือง
ทารกที่ได้รับนมแม่มีโอกาสเกิดตัวเหลืองได้ 2 ลักษณะ คือ Breastfeeding jaundice และ Breastmilk jaundice
ทารกที่จะกลับบ้านและมีภาวะเหลือง บุคลากรทางการแพทย์ต้องไม่ให้คำแนะนำที่ผิดว่า
- ให้ป้อนน้ำลูกมากๆ
- นำลูกตากแดดตอนเช้า
- ถ่ายอุจจาระบ่อย
ทารกแรกเกิดที่เลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียวอาจถ่ายอุจจาระกะปริดกระปรอย อาจนับการถ่ายอุจจาระได้ถึง 10-20 ครั้งต่อวัน ขณะดูดนมแม่ บิดตัวหรือผายลมจะมีอุจจาระได้ถึง 10-20 ครั้งต่อวัน ขณะดูดนมแม่ บิดตัวหรือผายลมจะมีอุจจาระเล็ดออกมาด้วย ทำให้เข้าใจผิดว่าทารกท้องเดิน ทารกมีน้ำหนักเพิ่มมากกว่าวันละ 30 กรัมต่อวัน
- ท้องผูก
ท้องผูกในทารกแรกเกิดตัดสินจากความแข็งของอุจจาระ ไม่ได้ดูที่ความถี่ของการถ่าย ภายหลังคลอด 4 สัปดาห์ น้ำนมแม่จะเป็นน้ำนมแท้ ที่ไม่มีนมน้ำเหลืองเจือปน หากทารกได้รับนมแม่ต่อไป ทารกอาจไม่ถ่ายอุจจาระทุกวัน อาจถ่ายวันเว้นวันจนถึง 2 สัปดาห์ โดยไม่มีอาการท้องอืด และอึดอัด ไม่อาเจียน อุจจาระออกมาเป็นลำยาวและนุ่ม คล้ายยาสีฟันที่ถูกบีบออกจากหลอด ทารกที่ได้รับนมแม่ไม่ถ่ายทุกวัน เกิดจากน้ำนมแม่ย่อยง่าย ส่วนประกอบของน้ำนมแม่ จึงถูกดูดซึมโดยลำไส้เพื่อใช้ในการเติบโต ทำให้เหลือกากที่กลายเป็นอุจจาระน้อย
- ทารกนอนมาก (sleepy baby)
แนวทางการแก้ไข
- ให้ทารกดูดนมในขณะหลับตื้น (REM sleep)
- ลดเครื่องห่อหุ้มกาย ให้เนื้อแนบเนื้อ ถอดเสื้อผ้าทารกเหลือเพียงผ้าอ้อม
- ให้ตาสบตา โดยพยายามคุยกับทารก
- อุ้มท่า football hold
- บีบเต้าให้น้ำนมเข้าปากทารกง่ายและมากขึ้น
- อุ้มทารกนั่ง ใช้ doll’s eye technique
- กระตุ้นทารกโดยการลูบเบาๆที่ศีรษะ หรือหลังโดยเคลื่อนเป็นวงกลม
- ใช้ผ้าเย็นที่เปียกเช็ดหน้าผากและแก้มทารก
- ทารกกวนและดูดนมบ่อย (fuzzy baby)
- เกิดจากทารกได้นมแม่ไม่พอจากข้อปฏิบัติของการให้นมแม่ไม่ถูกต้อง การปฏิบัติที่ถูกต้อง
คือ อุ้มถูกวิธี ดูดบ่อย 8-12 มื้อต่อวัน และดูดนาน 10-15 นาทีต่อเต้า และให้ดูดทั้งสองเต้าทุกมื้อ (เฉพาะในระยะแรกหลังคลอด ขณะที่น้ำนมแม่เริ่มถูกผลิตหรือยังไม่พอ) หรือเคร่งครัดเวลาดูดนมมากเกินไป ระยะแรกให้ดูดตามลูกต้องการ อย่าเคร่งครัดกับเวลา ให้ลูกดูดนมก่อนที่ลูกหิวมาก ถ้าหิวมาก ทำให้สงบโดยป้อนนมบีบเพื่อให้ทารกสงบก่อน หรือเกิดจากภาวะทารกมีลิ้นถูกยึดตรึง
- การได้รับเฉพาะน้ำนมส่วนหน้า/น้ำนมแม่มีมากเกิน
การแก้ไข
- บีบ/ปั๊มป์ น้ำนมออก จนน้ำนมไหลช้า ก่อนให้ลูกดูด เพื่อลด foremilk ที่ลูกจะได้รับ และกระตุ้น letdown reflex ที่ทำให้น้ำนมพุ่งออกแรงในระยะแรก ผ่านไปก่อน
- ลดจำนวนครั้งในการดูดนมอีกเต้า เพื่อยับยังการไหลของน้ำนมในเต้านม (galactostasis) ที่ไม่ถูกดูด เพื่อให้สร้างนมน้อยลง
- หลีกเลี่ยงการระบายนมจากเต้าบ่อย (ให้ลูกดูดนม) เพราะจะกระตุ้นการสร้างน้ำนม ยกเว้นคัดเต้านมมาก
- ไม่ต้องกำหนดความนานของการดูดนมเต้าแรก
- ให้ดูดนมจนเกลี้ยงเต้าก่อนให้ดูดอีกเต้า โดยรอให้ลูกหยุดนมเองหรือดูดจนหลับ หรือดูดกลืนช้าลง ไม่จำเป็นต้องดูดสองเต้า ถ้าเต้านมยังคัด ให้บีบน้ำนมออกเท่าที่หายคัด
- ให้ดูดเต้าเดียว (unilateral breastfeeding) หรือ cetain time block (block feeding) ให้ดูดเต้าเดียวนาน 4-12 ชม. เพื่อลดการสร้างน้ำนม
- หากเต้านมอีกข้างมีอาการคัด ให้บีบน้ำนมออก เพียงพอแค่ให้หายคัด
- ให้อุ้มท่า football hold จัดให้ศีรษะลูกอยู่สูงกว่าเต้าขณะดูดนม
- แม่นอนหงาย ให้ลูกนอนบนอกดูดนมแม่ เพื่อต้านแรงโน้มถ่วง
- การคัดจมูก
ลูกเคยดูดนมได้ดี อยู่ๆ ดูดนม 3-4 คำ แล้วอาปากร้อง หรือสะบัดหน้าหนี และร้องกวน ไม่ดูดนม สาเหตุที่พบบ่อยคือ การคัดจมูก
การรักษา
- หยอดน้ำเกลือเข้ารูจมูกข้างละ 5 หยด ทุก 2-3 ชั่วโมง
- หากไม่ได้ผล ให้ใช้สำลีพันปลายไม้ที่เตรียมเองและมีขนาดเรียวเล็ก ชุบน้ำเกลือเช็ดในรูจมูก หากเกิดจากน้ำมูก การเช็ดน้ำมูกออก อาการคัดจมูกจะหายไป หากมีน้ำมูกมาก ให้ใช้ finger tip connector ดูดรูจมูกแต่ละข้าง ด้วยแรงดูด -100 มม.ปรอท
- หากไม่ได้ผล ให้หยอดยาที่ทำให้เยื่อบุจมูกยุบบวม (0.5% ephedrine, 0.025% oxymetazoline HCI) ทุก 8 ชั่วโมง
นมแม่จะมีประโยชน์มากถ้าเดินสายกลาง