การใช้ฟอนต์มาตรฐานราชการ

สืบเนื่องจากประกาศของสถาบันพระบรมราชชนก เรื่องการใช้ฟอนต์มาตรฐานราชการ
(link อ้างอิง : ประกาศจาก สบช. “เรื่องการใช้ฟอนต์มาตรฐานราชการ”)

อัพเดท สามารถดาวน์โหลด font ผ่านทางเว็บไซต์ของวิทยาลัยได้แล้วค่ะ

[ดาวน์โหลดแบบ package] [ดาวน์โหลดแบบไฟล์ฟอนต์]

เนื้อหาโดยสรุปคือ
ทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศให้การจัดทำเอกสารต่างๆ ของหน่วยงานในสังกัด/ในกำกับกระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นมาตรฐานและไม่กระทบถึงปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทใดๆ (ซึ่งเดิมฟอนต์ที่ใช้ในเอกสารราชการเช่น angsana,cordia ฯลฯ เป็นลิขสิทธิ์ของไมโครซอฟต์) อีกทั้งยังเพื่อความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย จึงให้หน่วยงานดำเนินการดาวน์โหลดและติดตั้งฟอนต์มาตรฐานราชการไทยตามมติคณะรัฐมนตรี (รายละเอียดอ่านได้จาก link ประกาศของ สบช. ค่ะ)

โดยทุกท่านสามารถเข้าไปดาวน์โหลดฟอนต์ดังกล่าวได้ที่ www.sipa.or.th ในหน้าดาวน์โหลดจะมีไฟล์หลายแบบให้เลือก ทั้งแบบฟอนต์อย่างเดียว หรือแบบเป็น package ที่สะดวกต่อการติดตั้ง

แต่ในที่นี้ขอยกตัวอย่างที่เป็นไฟล์ฟอนต์อย่างเดียว เพราะสามารถนำไปติดตั้งกับโปรแกรมอื่นๆ เช่น โปรแกรมในตระกูล adobe ได้ด้วย สำหรับท่านที่เลือกดาวน์โหลดแบบ package ให้แตกไฟล์แล้วทำการติดตั้งได้เลย วิธีการไม่ยาก คลิก next กับ ok ไปเรื่อยๆ ^-^

โอเค……..ทีนี้กลับมาที่ไฟล์พระเอกของเรา เมื่อเข้าไปที่หน้าดาวน์โหลดฟอนต์ของ sipa แล้ว ให้เลือกไฟล์ Font Thai Sarabun Free Download ดังรูป

เลือกไฟล์ที่จะดาวน์โหลด

เมื่อดาวน์โหลดเรียบร้อยให้ทำการแตกไฟล์ ซึ่งไฟล์ที่ได้จะเป็นไฟล์ .zip ให้ใช้โปรแกรม winZip,winRAR หรือ 7-zip ในการแตกไฟล์

วิธีการแตกไฟล์ ให้คลิกขวาที่ไฟล์จะปรากฎดังภาพ จากนั้นเลือก Extract Here (ในภาพจะมี 3 ตัว เลือกอันไหนก็ได้ แล้วแต่สะดวก)
ถ้าไม่มีคำว่า Extract ให้เลือก แสดงว่าเครื่องของท่านอาจจะไม่มีโปรแกรมสำหรับแตกไฟล์
สำหรับโปรแกรมในการแตกไฟล์สำหรับท่านที่ไม่มี ให้ไปดาวน์โหลดได้ที่ http://www.7-zip.org/download.html
(ตัวนี้ฟรีไม่มีลิขสิทธิ์เหมือนของ winZip และ winRAR ค่ะ)

แตกไฟล์

ขั้นต่อไปเป็นวิธีการติดตั้ง ให้ไปที่ Control Panel->Appearance and Personalization->Fonts
ถ้าเป็น windows 7  ให้ copy ไฟล์ที่แตกไว้มาใส่ ดังรูป

copy ไฟล์ เพื่อติดตั้งใน win7

สำหรับ windows XP เมื่อเข้ามาที่ Control Panel->Fonts แล้ว ให้ไปที่เมนูด้านบน
เลือก Files->Install New Fonts…
จะปรากฎหน้าต่าง ให้เลือกที่อยู่ไฟล์ที่เราแตกไว้เมื่อครู่ -> เลือก Select All -> OK แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

สำหรับโปรแกรมอื่นๆ เช่น โปรแกรมในตระกูล Adobe ให้ copy ไฟล์ที่แตกไว้ ทั้งโฟลเดอร์เลยก็ได้ ไปไว้ที่
Drive C -> Program Files ->Common Files ->Adobe ->Fonts ตามรูป

copy เพื่อติดตั้งใน adobe
เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้งฟอนต์

ขอบคุณข้อมูลจาก

สถาบันพระบรมราชชนก และสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมของซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) (สอซซ.) หรือ “SIPA”

สำหรับท่านที่มีปัญหากับการดาวน์โหลด หรือการติดตั้งฟอนต์

ท่านสามารถมาติดต่อทางห้องโสตฯ ได้ค่ะ จะเอา flash drive (ขอแบบที่ปลอดไวรัส….ฮา) มา save ไฟล์ไปติดตั้งเอง หรือจะยก notebook มาให้ดำเนินการก็แล้วแต่สะดวกค่ะ

Tags: , , ,

วิธีเสียบปลั๊ก Notebook? ที่ถูกต้องและปลอดภัย

เรื่องนี้เป็นทิปสั้นๆ แต่..ทิปสั้นๆ นี้ ผมเชื่อว่ามีใครหลายยคนที่ไม่เคยรู้มาก่อน ประมาณว่า จริงเหรอ? ใช่เหรอ?

ในช่วงแรกๆ ที่ผมใช้โน้ตบุ๊กก็อาการเดียวกับหลายๆ ท่าน เวลาจะเสียบปลั๊กก็เสียบตัวอะแดปเตอร์เข้ากับตัวเครื่องก่อน (จริงๆ มันน่าจะถูกนะ) แล้วก็เอาปลั๊กอีกด้านไปเสียบกับเต้ารับของที่บ้าน หรือที่ทำงาน โดยหลักความเป็นจริงแล้ว มันจะควรจะทำแบบนี้ใช่มั้ย?

คิดว่าหลายคนคิดเหมือนผม ปัญหาที่ผมเจอเมื่อทำแบบนี้กับโน้ตบุ๊กแทบทุกรุ่นที่ผ่านมา ก็คือมันมีไฟแลปออกมาจากตัวปลั๊ก เหมือนเกิดการสปาร์คขึ้น เสียบกี่ครั้งก็เกิดอาการแบบนี้ จนพาลคิดไปว่าพวกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กมันไม่ค่อยดีมั้ง ผลที่เกิดการ spark บ่อยๆ จะมีผลทำให้ไฟฟ้ากระตุก อย่างดีแค่ อะแดปเตอร์เสีย  ถ้าซวยมาก Mainboard พัง  ต้องเสียค่าซ่อมอย่างน้อย 4-5 พัน  หรือบางรุ่นต้องเปลี่ยน  Mainboard ใหม่ อาจถึงหลักหมื่น  เพื่อนผมหลายคนใช้วิธีเด็ดกว่านี้ครับ คือซื้อปลั๊กที่มีสวิทซ์เปิดปิดมาเลย

วิธีการที่เขาทำก็คือ เสียบปลั๊กทุกๆ อย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเปิดสวิทซ์ที่ปลั๊ก เอ้ออ.. ไอเดียดีเนาะว่ามั้ย แต่ก็ต้องพกปลั๊กไฟไปทุกที่ หนักดีแท้

ต่อไปนี้ตั้งใจอ่านให้ดีดีนะครับ ในคู่มือเขาบอกไว้ชัดเจนเลยครับว่า วิธีการเสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊ก ที่ถูกต้องก็คือ ให้เราเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับที่บ้านหรือที่ทำงานก่อนครับ จากนั้นค่อยเอาปลายอีกด้านที่เหลือมาเสียบเข้ากับโน้ตบุ๊ก อันนี้คือวิธีที่ถูกต้อง

ปรากฏว่าอาการไฟแลบหรืออาการสปาร์คนั้นไม่มีเกิดขึ้นเลย    ใครใช้โน้ตบุ๊กอยู่ตอนนี้จะลองทำดูก็ได้นะครับ  ขอเพิ่มเติมด้วยว่า ใช้วิธีเดียวกันนี้กับ ทั้งมือถือ และ PDA ด้วย

ไวรัส ”Recycler”

รู้จักไวรัสโฟลเดอร์ Recycler หรือเปล่า
Recycler มันมีหน้าที่ เวลาเราลบไฟล์หรือโฟร์เดอร์อะไรก็ตาม มันจะไปสิงสถิตที่ถังขยะก่อนที่เราจะเอามันไปเททิ้งไวรัสถังขยะตัวนี้สามารถสิงสถิตใน Flash Drive ได้ด้วย ถ้าพบแสดงว่าเครื่องติดไวรัสไปแล้ววิธีการป้องกันการแพร่กระจาย ห้ามเข้า Flash Drive ผ่านทาง My Computer มิฉะนั้นอย่างน้อยมันก็ย้ายเข้าไปนอนในฮาร์ดดิสก์ แล้วตอนนี้มันสร้างความเสียหายโดยทำให้เครื่องมันรู้สึกช้าลง
แล้วจะฆ่ายังไงดี
ไฟล์ที่ไวรัสใช้ในการแพร่กระจายคือ mmc32.exe ซึ่งจะอยู่ในโฟร์เดอร์ Recycler เทคนิคที่มันใช้ในการหลบซ่อนตัวก็คือ UPX (UPX มันคือ Ultimate Packer for executable เป็นโปรแกรมของบริษัท Source forge ที่ใช้ทำการบีบอัดไฟล์พวก .exe หรือ .dll ให้มีขนาดลดลง ทำให้สามารถใช้งานโปรแกรมที่ถูกบีบอัดได้ในขณะที่การทำงานของโปรแกรมกลับไม่ช้าลง ) ไฟล์ไวรัสมันเป็นไฟล์ประเภท PE ย่อมาจาก Portable Executable ซึ่งจะหมายถึง ”ไฟล์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานตัวเองได้” มันทำงานอัตโนมัติเมื่อเวลาเราเปิดเครื่อง เพราะเวลาที่ลบโฟลเดอร์ Recycler ที่ Flash Drive ในเครื่องที่มีไวรัส มันก็จะสร้างตัวเองขึ้นมาตลอดเวลา เป็นโปรแกรมประเภทที่เรียกว่า ”โปรแกรมที่ฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำ” ประเภทของไวรัสคือ : Worm (หนอน) มีคุณสมบัติของไวรัสมันคือ ก่อกวน เครื่องทำให้เครื่องต้องทำงานหนัก หน่วยความจำไม่พอทำให้เครื่องอืดลง ช้าลง แต่ไม่ทำลายข้อมูล
ไวรัสตัวนี้มันทำงานอยู่บน OS ดังนี้ : Windows 98, ME, NT, 2000, XP, Server 2003 ,vista ,window 7
ไฟล์ไวรัสมันอาศัยอยู่ตรงส่วนนี้
- C:\WINDOWS\system32\crss.exe
- C:\WINDOWS\system32\crss.exebak
- C:\WINDOWS\system32\dnscon70.dll
- C:\WINDOWS\system32\mstcpcon20.dll
- C:\WINDOWS\system32\netmanage.dll
- C:\WINDOWS\system32\netused.dll
- C:\WINDOWS\system32\SR1000R.DLL
- C:\WINDOWS\system32\SR1000R.DLLbak
- C:\WINDOWS\Temp\_ISTMPI.DIR\autorun.inf
- C:\WINDOWS\Temp\_ISTMPI.DIR\template.tmp
- C:\WINDOWS\Temp\_ISTMPI.DIR\mmc32.exe
- C:\WINDOWS\Temp\Del37.tmp
แล้วมันจะเขียนค่า Registry ที่ขึ้นมาเพื่อสั่งการทำงานตัวเอง มีอยู่ 2 ส่วนคือ
- HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\Dnscon
- HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\NetManager

ถ้าเราจะฆ่าไวรัสนั้นเราต้องตามไปลบพวกไฟล์และค่าเหล่านี้ แต่อย่าลืมว่าต้องเข้าไปลบไวรัสใน Safe Mode โดยการเลือก ไฟล์ข้างบนจากนั้นกด Shift +Del ก่อนทำการลบ อย่าลืมเข้าไป ”Folder Options” แล้วเปิดการทำงานของ Hidden files and folder และไปปิด Hide protected operating system files ด้วย และอย่าลืมทำการ Disable ในส่วนของ System Restore ด้วย เพราะ ไวรัสมันแฝงตัวกระจัดกระจายในนั้นด้วย และต้องตามไปลบใน Registryด้วย โดยเข้า Start ไปที่ Run พิมพ์ regedit และค้นหา ค่า Registry 2 ตัวข้างบน จากนั้นก็ลบ
สำหรับใน Flash Drive นั้นเราต้องลบ ไฟล์ไวรัส โดยการ คลิกที่ไฟล์ Autorun.ini กับโฟลเดอร์ Recycler จากนั้นกด Shift +Del พร้อมกัน จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาถามว่า จะลบไฟล์ดังกล่าวแน่หรือ ตอบ OK ไฟล์จะถูกลบไป
ปล. เดี๋ยวนี้โปรแกรม Anti-Virus ทั้งหลายก็สามารถสแกนเห็นไวรัสตัวนี้ได้แล้ว บางตัวเห็นแต่ทำอะไรไม่ได้
ปล2. ไวรัส Recycler นี้รู้สึกว่าจะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ แบบที่ใช้ไฟล์ในการแพร่คือ mmc32.exe กับ info.exe แต่ว่าไอ้ info.exe น่าจะเป็นตัวอัพเกรดไวรัสรุ่นแรกของ mmc32.exe
วิธีป้องกัน
การใช้ Flash Drive ดังนี้ เข้า My com ที่ Desktop แล้วคลิกขวาที่ Drive ที่ต้องการ เลือก Explore หรือ กดที่ไอค่อน Folder ด้านบน ก็ได้ virus จะไม่สามารถเข้าได้

23 โปรแกรมลับใน XP

รู้ไหมครับ ว่า Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม ซึ่งถ้าเราไม่รู้จักมันมาจากการที่จำเป็นต้องใช้มันนั้น เราจะไม่มีทางได้ใช้มันเลย เพราะบางโปรแกรม มันไม่อยู่ใน StartMenu ให้เรากด บางโปรแกรมถึงติดตั้งมาโดยที่เอาออกไม่ได้ บางโปรแกรมเป็นโปรแกรมที่มาจากวินโดว์รุ่นก่อน (ทั้งๆที่ XP ก็มีโปรแกรมนั้นแล้ว) มาดูกันว่า 23 โปรแกรมนั้นมีอะไรบ้าง
23 โปรแกรมลับใน XPวิธีการใช้ก็เข้าที่ Start -> Run -> พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้
charmap.exe = Character Map (มีประโยชน์มากสำหรับใช้พิมพ์อักขระพิเศษ)
cleanmgr.exe = Disk Cleanup (เอาไว้ทำความสะอาดหรือ Clear พื้นที่)
clipbrd.exe = Clipboard Viewer (ดูข้อมูล ในคลิปบอร์ด)
drwtsn32.exe = Dr Watson (โปรแกรมที่ใช้ตัวสอบว่าวินโดว์มีปัญหาเพราะอะไร)
dxdiag.exe = DirectX diagnosis (โปรแกรมตรวจสอบอุปกรณ์ว่า สนับสนุน DirectX หรือไม่ และแสดงรายชื่อไฟล์ที่เกี่ยวข้อง)
eudcedit.exe = Private character editor (โปรแกรมที่อนุญาตให้เราแก้ไขฟอนต์ หรือทำฟอนต์เองได้)
iexpress.exe = IExpress Wizard (โปรแกรมที่สร้างไฟล์ Setup ของวินโดว์ เอาไว้สำหรับคนที่เขียนโปรแกรมบนวินโดว์)
mobsync.exe = Microsoft Synchronization Manager (โปรแกรมที่คอยเก็บหน้าเว็บ หรือไฟล์บนเครือข่าย เอาไว้ดูตอน offline ได้)
mplay32.exe = Windows Media Player 5.1 (โอ้ Windows Media Player รุ่นคุณปู่)
odbcad32.exe = ODBC Data Source Administrator (โปรแกรมไว้จัดการกับดาต้าเบต)
packager.exe = Object Packager (โปรแกรมที่ใส่พวก Objects ต่างๆ ลงในไฟล์)
perfmon.exe = System Monitor (โปรแกรมนี้ มีประโยชน์มาก ไว้ตัวสอบประสิทธิภาพของวินโดว์)
progman.exe = Program Manager (เชลล์ไฟล์ของวินโดว์ 3.11)
rasphone.exe = Remote Access phone book (โปรแกรมที่เอาไว้ ติดต่อหรือเข้าถึงข้อมูลของสมุดที่อยู่ ในเครื่องอื่น)
regedt32.exe = Registry Editor [เหมือนกับ regedit.exe] (ไว้ใช้สำหรับแก้ไข Registry ของวินโดว์)
shrpubw.exe = Network shared folder wizard (สร้างแชร์โฟดเดอร์บนเครือข่าย)
sigverif.exe = File siganture verification tool (โปรแกรมตรวจสอบ signature ของไฟล์)
sndvol32.exe = Volume Contro (โปรแกรมไว้ปรับระดับเสียงไง อันเดียวกับรูปลำโพงตรง tray icon)
sysedit.exe = System Configuration Editor (โปรแกรมแก้ไข system.ini กะ win.ini)
syskey.exe = Syskey (Secures XP Account database – เป็นโปรแกรมที่ใช้ เข้ารหัส รหัสผ่านของวินโดว์ กรุณาใช้อย่างระมัดระวัง)
telnet.exe = Microsoft Telnet Client (โปรแกรม telnet)
verifier.exe = Driver Verifier Manager (โปรแกรมตรวจสอบ driver ต่างของวินโดว์ ใช้สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องไดร์เวอร์)
winchat.exe = Windows for Workgroups Chat (โปรแกรม chat รุ่นคุณปู่)

27 เทคนิคเล็กน้อย ๆ ในการใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป

1.ในขณะที่คุณกำลังจะ Restart เครื่องใหม่ ก่อนที่จะกดปุ่ม OK ให้คุณกด Shift ค้างไว้ จะทำให้คุณ Restart ได้เร็วขึ้น
2.ในบาง Web Site หากคุณกด Ctrl ค้างไว้ และเลื่อน Scroll ที่ Mouse จะทำให้ตัวอักษรของ Web Site นั้นใหญ่ขึ้น
3.หากกดปุ่ม Refresh หรือ F5 แล้วยังเป็นข้อมูลเดิม ลองกด Ctrl + F5 รับรองจะได้ข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดแน่ๆ
4.คุณสามารถเปิดไฟล์ Tips.txt ขึ้นมาเพื่ออ่านเทคนิคต่างๆ ได้ ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่ใน c:\windows ของคุณในระหว่างที่คุณกำหลังใช้งาน IE อยู่นั้น สามารถกดปุ่ม F4 เพื่อเป็นการเปิดดู URL List ในช่อง Address ได้เลย
5.การกดปุ่ม Esc ระหว่างการใช้ IE จะทำให้ IE ของคุณนั้นหยุดโหลดได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Stop
6.ระหว่างการใช้ IE สามารถกดปุ่ม Alt + D หรือ Ctrl + Tab เพื่อเข้า Address bar อย่างเร็วได้
7.คุณสามารถเพิ่มความเร็วให้กับ Internet ได้โดยทำการถอดสายเครื่องโทรศัพท์ ที่มีการต่อพ่วงอยู่กับสายที่ใช้ต่อ Internet ออก
8.คุณสามารถ ไปที่ Start Run และพิมพ์ว่า welcome กด Enter เพื่อเปิดหน้าต่างต้อนรับของ Windows ได้ ที่ Notepad หรือ ICQ หากคุณลืมเปลี่ยน Mode ภาษา ให้กดปุ่ม Ctrl + Back Space เพื่อแก้คำที่พิมพ์ผิดไปแล้ว
9.คุณสามารถ เปิด Folder Desktop อย่างรวดเร็ว โดย Start Run พิมพ์จุด (.) ลงไปแล้วกด Enter
10.ใน IE สามารถกด Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้า Page ลงได้ ส่วนเลื่อนขึ้นคือ Shift + Space Bar
11.ใน IE ที่ช่อง Address ปุ่ม Ctrl+Enter สามารถช่วยคุณพิมพ์ URL ได้เร็วยิ่งขึ้น
12.การกด Ctrl ค้างเอาไว้ ตอนเวลา BOOT เครื่อง จะทำให้คุณไม่พลาด Startup Menu
13.คุณสามารถปิดนาฬิกาที่ Taskbar ได้ โดยคลิกขวาที่ Task bar เลือกProperties เอาเครื่องหมาย Show Clock ออก
14.หากคุณกด F11 ในWindows Explorer จะช่วยให้มีการทำงานที่สะดวกขึ้น
15.ใน ICQ การส่ง Message หากคุณกด Ctrl+Enter จะสะดวก กว่าการ Click Mouse ที่ปุ่ม send
16.คุณสามารถกด F2 เพื่อ ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ Icon ต่างๆ ได้
17.การกด F5 ใน NotePad จะเป็นการแทรก เวลา และวันที่ ปัจจุบัน
18.การกด Windows + E จะเป็นเปิด Windows Explorer ขึ้นมา
19.เปิด System Properties อย่างรวดเร็วคือการกด Window + Pause Break
20.การย่อยทุกๆ หน้าต่างที่เปิดใช้งาน ให้ยุบไปให้หมด คือการกด Window + D ถ้าจะขยายคืนมาอีก ให้กดซ้ำ
21.การเคาะวรรคในโปรแกรม Dreamweaver คือ Shift + Ctrl + Space Bar ส่วนการเว้นบรรทัดคือ Shift + Enter
22.การลบไฟล์แบบ ไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin คือการกด Shift + Delete
23.การกด Shift ค้างไว้ เวลาใส่แผ่น CD-Rom จะเป็นการไม่ให้มันเปิด Autorun ของแผ่น CD-Rom นั้นขึ้นมา
24.การ Restart เครื่องอย่างเร็ว คือไปที่ Start ปุ่ม Shut Down เลือกกด Restart จากนั้น ก่อนที่จะ OK ให้กด Shift ค้างเอาไว้
25.ในระหว่างใช้ Browser คุณสามารถกดปุ่ม Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าลง และ Shift + Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้าขึ้นได้
26.กด Shift + คลิก จะเป็นการเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้อง back กลับ
27.คุณสามารถ ไปที่ Start find; Run และพิมพ์ว่า hwinfo /ui กด Enter เพื่อดูรายงานต่างๆ ของ Hardware