การใช้ PIM Score ในการประเมินผลลัพธ์ของกระบวนการให้บริการในหอผู้ป่วยวิกฤตกุมารเวช
โครงการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานวิจัยและวิชาการร่วมกับแหล่งฝึก
ระหว่างวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี และกลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลพระปกเกล้า
ครั้งที่ 4 วันที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 13.30 -16.00 น.
ณ ห้องประชุมลีลาวดี โรงพยาบาลพระปกเกล้า
เรื่อง การใช้ PIM Score ในการประเมินผลลัพธ์ของกระบวนการให้บริการในหอผู้ป่วยวิกฤตกุมารเวช
วิทยากร นายแพทย์ทนง ประสานพานิช นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางเด็ก
คุณปรีดาวรรณ บุญมาก พยาบาลวิชาชีพชำนาญการทางด้านการพยาบาลเด็ก
ผู้เข้าร่วมประชุม จากวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี จำนวน 30 คน
จากโรงพยาบาลพระปกเกล้า 23 คน
รวมผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 53 คน
สรุปสาระการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
หลักการคิดของทีมผู้รักษามีแนวคิดว่าการช่วยฟื้นคืนชีพในหอผู้ป่วยเด็กเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ดังนั้นทีมการรักษาจึงพยายามคิดหาเครื่องมือในการเฝ้าระวังหรือสังเกตอาการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ป่วย เรียกว่า “MEWS Score” (Monitoring Early Warming Sign Score)
การวัดอัตราการตาย (Measures of mortality) จำแนกลักษณะ ได้แก่
1. อัตราตายอย่างหยาบ
2. อัตราตายจำเพาะ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ ตามอายุ และตามโรค
3. อัตราตายมาตรฐาน
4. Standard Mortality Ratio
การรายงานอัตราการตาย ที่เป็นรายงานการเปรียบเทียบระหว่างจำนวนผู้รับบริการที่ตายจริงกับจำนวนที่พยากรณ์ไว้ ซึ่งถ้าจำนวนที่ตายจริงมากกว่าจำนวนที่พยากรณ์ แสดงว่าอาจมีปัญหาทางคุณภาพการให้บริการเกิดขึ้น ต้องดำเนินการต่อในเรื่อง วิเคราะห์ ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง (เป็นสิ่งที่ดีที่สุด) และเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่น
แนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อลดอัตราการตาย
1. วิเคราะห์กรณีศึกษาอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการตาย โดยใช้ Model
2. การพยากรณ์จำนวนผู้ป่วยที่ควรตาย ทั่วไปใช้เครื่องมือในการพยากรณ์ได้แก่
2.1 APACHE ปัจจุบันหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม (ICU Med) ใช้อยู่
2.2 SAPS
2.3 PRISM
2.4 PIM หอผู้ป่วยวิกฤตกุมารเวชและหอผู้ป่วยส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรีใช้อยู่
3. Risk of Mortality Models การนำเครื่องมือมาใช้ต้องพิจารณาว่าเครื่องมือนั้น good discrimination และ good calibration ที่จะ Predictive ability for individual
ปัจจุบันหอผู้ป่วยหนักเด็ก (ICU เด็ก) ได้นำ PIM score มาใช้เพื่อประเมินผลลัพธ์ของการให้บริการ และทำวิจัยระหว่างปีพศ. 2549-2553 เป็นระยะเวลา 5 ปี ศึกษาในผู้ป่วยทุกรายที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วย โดยใช้ PIM score ประเมินใน 24 ชั่วโมงแรก สำหรับหอผู้ป่วยศัลยกรรม 4 ใช้เครื่องมือในการประเมินและเฝ้าระวังแผลกดทับ คือ BARDEN score
แนวทางการนำผลการประชุมไปใช้ จากการประชุมครั้งที่ 4
- ในการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ อาจารย์ผู้สอนควรให้นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับแบบประเมิน ต่าง ๆ ที่แหล่งฝึกใช้เพื่อให้นักศึกษามีแนวทางในการใช้แบบประเมินต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง และนำผลการประเมินมาใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการพยาบาลผู้ป่วยเป็นรายบุคคลได้อย่างเหมาะสมต่อไป เช่น การใช้ PIM score ในการประเมินผลลัพธ์ของกระบวนการให้บริการ การใช้ BARDEN score ในการประเมินและเฝ้าระวังแผลกดทับ เป็นต้น
- การใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการประเมินผู้ป่วยควรมีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือรองรับ จะช่วยทำให้เห็น แนวทางการปฏิบัติการพยาบาลที่ชัดเจนมากขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการได้ต่อไป
นางทิพวรรณ ลิ้มประไพพงษ์
นางสาวลลิตา เดชาวุธ
ผู้บันทึก