สรุปการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 2 เทคนิคการสอนการตั้งข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

สรุปการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 2 เทคนิคการสอนการตั้งข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล

ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

ภาควิชา การพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

วันที่ประชุมจัดการความรู้ 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ ห้องรับรอง ๑ อาคารอำนวยการ

ผู้เขียนความรู้       อ. รุ่งนภา เขียวชะอ่ำ

ผู้จดบันทึก

อ. รุ่งนภา เขียวชะอ่ำ

อ. รัชสุรีย์ จันทเพชร

อ. ปรีดาวรรณ บุญมาก

ผู้ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความรู้

  1. อ. คนึงนิตย์ พงษ์สิทธิถาวร
  2. อ. สาคร พร้อมเพราะ
  3. อ. สุชาดา นิ้มวัฒนากุล
  4. อ. ขวัญสุวีย์ อภิจันทรเมธากุล
  5. อ. นวนันท์ ปัทมสุทธิกุล
  6. อ. รัชสุรีย์ จันทเพชร
  7. อ. สุปราณี ฉายวิจิตร
  8. อ. ดร ทองสวย สีทานนห์
  9. อ. ยศพล เหลืองโสมนภา
  10. อ. วารุณี สุวรวัฒนกุล
  11. อ. ปาลีรัญญ์ ฐาสิรสวัสดิ์
  12. อ. รสสุคนธ์ เจริญสัตย์ศิริ
  13. อ. รุ่งนภา เขียวชะอ่ำ
  14. อ. นุชนาถ ประกาศ
  15. อ. จริยาพร วรรณโชติ
  16. อ. สุกัญญา ขันวิเศษ
  17. อ. สุภา คำมะฤทธิ์
  18. อ. ปรีดาวรรณ บุญมาก
  19. อ. อรพรรณ บุญลือ

 

สรุปรูปแบบการเขียนวินิจฉัยทางการพยาบาลเพื่อนำไปใช้ในกับนักศึกษา

รูปแบบการเขียนวินิจฉัยทางการพยาบาล

X           คือ ปัญหาผู้ป่วย (end outcome)
Y1          คือ พยาธิสรีภาพ/กรอบแนวคิด/ทฤษฎี
Y2          คือ โรค/ภาวะ

หลักการเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ก่อนที่เราจะได้ปัญหา
  1. ต้องมีข้อมูลสนับสนุนมาก่อน คำนิยามว่าเป็น negative data ประกอบด้วย 6 items ประกอบด้วย
1) การตรวจร่างกาย ( ดู คลำ เคาะ ฟัง)

 

2) การซักประวัติ

 

3) สัญญาณชีพ

 

4) ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

 

5) การตรวจพิเศษ

 

6) แผนการรักษา

 

2. ข้อมูลสนับสนุนต้องสะท้อน

 

1. X ( ทั้ง 6 items (ถ้ามีครบ) )
2. Y1 ( ทั้ง 6 items (ถ้ามีครบ) )
3.  Y2 ( ทั้ง 6 items (ถ้ามีครบ) )

 

3. เราจะได้ข้อมูลสนับสนุนที่เพียงพอจะสามารถตั้งเป็นปัญหาได้
EX ภาวะพร่องออกซิเจน (X) เนื่องจากพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนก็าซลดลง(Y1)จากปอดอักเสบ

 

ข้อมูลสนับสนุน X คือ 1)……2)…..3)……4)……5)……6)…..
Y1 คือ 1)……2)…..3)……4)……5)……6)…..
Y 2 คือ 1)……2)…..3)……4)……5)……6)…..
4. เกณฑ์การประเมินผลได้จาก Negative Data ทั้ง 5 ข้อ (ยกเว้นข้อ 6 ที่เราไม่เอามาใส่ ) เราเรียกว่า positive data

 

5. กิจกรรมการพยาบาล ให้ใช้หลักมิติทางการพยาบาล คือ ส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู

 

6. การประเมินผลตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

 

 

3. ข้อตกลงวิธีการสอนการเขียนวินิจฉัยทางการพยาบาลและนำไปใช้ในกับนักศึกษา

 

ขั้นตอนวิธีการสอน

  1. Assessment ใช้ Functional Health Pattern ที่นักศึกษาเคยใช้มาตั้งแต่ปี 2 ซึ่งครอบคลุมองค์รวม
  2. แนวการเขียน วินิจฉัยการพยาบาลใช้ NANDA โดยผสมผสานกับความรู้ด้านพยาธิสรีรภาพของผู้ป่วยด้วย
  3. แนวทางการรวบรวมข้อมูลจากผู้ป่วยเพื่อมาเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล ควรจากการเริ่มให้ศึกษาข้อมูลจากchart ผู้ป่วย  Laboratory finding & Investigation, Treatment of Doctor’s ,order sheet & Progress note ให้ทราบข้อมูลแล้ว approach ผู้ป่วยเพื่อซักประวัติ ตรวจร่างกายด้วยตนเอง วัดสัญญาณชีพ นำมาวิเคราะห์ แล้วแบ่งกลุ่มยา และผล Laboratory ตามปัญหาพยาธิสภาพของโรค เพื่อเขียนข้อวินิจฉัยการพยาบาลต่อไป
  4. การดำเนินการเพิ่มเติมสำหรับนำไปใช้กับนักศึกษาในวิชาภาคปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 1
    1. พิมพ์หลักการแนวทางการเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลเบื้องต้นแนบไว้คู่มือการปฏิบัติภาคปฏิบัติวิชาภาคปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 1
    2. แนะนำหนังสือ, website ที่เป็นตัวอย่างในการเขียนซึ่งเข้าถึงได้ง่ายไว้ในคู่มือด้วย

 

 

 

หมายเหตุ อ.คณึงนิตย์ ได้มอบหมายให้นักศึกษาซื้อหนังสือคู่มือการใช้กระบวนการพยาบาลไว้ทุกคนเป็นแนวทางในการเขียนข้อวินิจฉัยการพยาบาลแล้วตั้งแต่ปี 2

 

Print Friendly
ผู้เขียน อ.รุ่งนภา เขียวชะอ่ำ (ประวัติการเขียน 5 เรื่อง)

อาจารย์พยาบาลสังกัด ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ


Tags: , ,

3 Responses to “สรุปการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 2 เทคนิคการสอนการตั้งข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ”

  1. rungnapha khiewchaum พูดว่า:

    หลักการเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลสำหรับนักศึกษาจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก ประเด็นที่สำคัญ คือ การมีความรู้ในโรคนั้น ๆ อย่างดี พอ ถ้าหากมีความรู้ได้อย่างดีแล้ว เราสามารถดึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย เช่น ข้อมูลสนับสนุน ได้มาจาก การตรวจร่างกาย การซักประวัติ สัญญาณชีพ การตรวจทางห้องปฏิบัตการ การตรวจพิเศษ และแผนการรักษา สาเหตุที่ให้การตรวจร่างกายกายมาอันดับ 1 เพราะเป็นการใช้ทักษะที่เรียนมาจากทฤษฎีนำมาประยุกต์ใช้กับผู้ป่วย โดยพยาบาลไม่จำเป็นต้องรอแพทย์ในการวินิจฉัย หากเรามีความรู้ว่าผู้ป่วยกำลังมีปัญหาใด สามารถ early detection and prediction ได้เลยจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นให้การพยาบาลได้ทันท่วงที ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนเพ่ิมมากขึ้น

  2. aranya boontham พูดว่า:

    ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ดีนั้น อ่านแล้วต้องทำให้เข้าใจว่าเป็นปัญหาสำหรับผู้ป่วยอย่างไร และเราจะช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างไรในบทบาทของพยาบาล บางครั้งหลายครั้งที่อ่านข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลในหนังสือที่เขียน อ่านแล้วต้องถามตัวเองต่อว่า แล้วข้อวินิจฉัยนั้นเป็นปัญหากับผู้ป่วยอย่างไร ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น ในผู้ป่วยปอดอักเสบนั้นการเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลว่า ภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนแก๊สลดลงจากปอดอักเสบ ในผู้ป่วยปอดอักเสบแต่ละรายนั้น ก่อให้เกิดปัญหากับผู้ป่วยทุกรายเหมือนกันไหม

  3. จิตติยา สมบัติบูรณ์ พูดว่า:

    การเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลนั้น นอกจากจะสะท้อนได้ถึงชั้นภูมิความรู้ของผู้เขียนแล้ว ยังสะท้อนถึงทักษะ ประสบการณืของผู้เขียน รวมทั้งการมีศิลปะในการใช้ภาษาของผู้เขียนด้วย ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2-4 การเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลจะมีความลึกซึ้งในการเขียนไม่เท่าเทียมกัน เนื่องจากชั้นปีเล็กกว่ามีความรู้เรื่องโรค และพยาธิสภาพของโรคไเท่ากัน ทั้งนีการจัดการเรียนการสอนในวิชาพยาธิวิทยามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากผู้เรียนๆด้วยความเข้าใจ จะทำให้ผู้เรีรยนสามารถเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลได้ดีขึ้น สามารถแก้ปัญหาของผู้ป่วยได้ตรงประเด็น
    หากจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลในชั้นปีที่ 2-4 นั้น น่าจะมีการวางแผนการจัดการเรียนการสอนในวิช่าวิชาวิทยาศาตร์พื้นฐาน และพื้นฐานวิชาชีพให้เข้มข้นมากขึ้น เช่น วิชาพยาธิวทยา วิชาการยวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา เป็นต้น รวมทั้งวิชาหมวดวิชาชีพ เช่น วิชาแนวคิด ทฤษฎี และกระบวนการพยาบาล ที่ต้องเรีบยนในชั้นปีที่ 2 (2 หน่วยกิต) ผู้เรียนควรได้รับการสอนให้สามารถรวบรวมข้อมูลในระดับปฐมภูมิ และทุติยภูมิได้ แยกแยะระดับของข้อมูลได้อย่างชัดเจนถูกต้อง 100% และสามารถนำผลการตรวจร่างกาย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และผลการตรวจพิเศษมาใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนได้ถูกต้อง ซึ่งนักศึกษาได้เรียนในวิชาการประเมินสุขภาพ ในชั้นปีที่ 2 เมื่อเรียนในวิชาปัญหาสุขภาพ ปละปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ อาจารย์ผู้สอนจะต้องใช้ความสามารถในด้านการสอน เพื่อเชื่อมโยง กระตุ้น และสอนแนะให้ผู้เรียนได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาแล้วในการเขียนข้อวินิจฉัยการพยาบาลได้ถูกต้อง ตรงประเด็น และสามารถแก้ปัญหาของผู้ป่วยได้