สรุปความรู้จากการศึกษาดูงานในประเทศสิงคโปร์

ในวันที่ 1-3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 และ วันที่ 8-10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ณ Singapore General Hospital

• ค่ารักษาพยาบาลโดยรวมของสิงคโปร์

ค่าใช้จ่ายในรักษาพยาบาลของประเทศสิงคโปร์ราคาค่อนข้างสูง หากเป็นโรงพยาบาลของรัฐค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 90 เหรียญ สำหรับชาวต่างชาติจะเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าชาวสิงคโปร์ประมาณ 3 เท่า และถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลขั้นต่ำจะอยู่ที่ 500 เหรียญ สำหรับครอบครัวที่ยากจนจริงๆ ทางรัฐบาลจะมีบัตรรักษาฟรีให้เป็นกรณีพิเศษ ต่างจากประเทศไทยที่มีบัตรประกันสุขภาพให้กับทุกคน

• ประวัติความเป็นมาของ Singapore General Hospital

โรงพยาบาลสิงคโปร์ก่อตั้งปี ค.ศ. 1930 โดย Dr. John Herbert Bowyer สมัยที่ตกอยู่ภายในการปกครองของอังกฤษ พื้นที่ก่อตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้เคยเป็นสนามกอล์ฟมาก่อน ต่อมาได้ถูกนำพื้นที่ดังกล่าวไปก่อตั้งเป็นโรงพยาบาลในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถือได้ว่าโรงพยาบาลสิงคโปร์แห่งนี้ เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของสิงคโปร์ ตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาล ได้ให้บริการกับประชาชนเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน นอกจากจะให้บริการรักษาพยาบาลแล้ว ยังมีการเปิดการเรียนการสอน และเป็นแหล่งฝึกให้กับนักศึกษาแพทย์ (เหมือนกับโรงพยาบาลพระปกเกล้า)

• ภายใน SGH Museum (Singapore General Hospital Museum)
  • ชั้นที่ 1
    • ดูวิดีโอการผ่าตัดมือและนิ้วมือ ซึ่งทางโรงพยาบาลมีชื่อเสียงทางด้านนี้
    • ดูเครื่อง x-ray ในยุคเริ่มแรก
    • เหตุการณ์จำลองจากหุ่นคุณหมอ พูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับโรงพยาบาล
    • รูปนาฬิกาทรายที่พื้น เป็นที่สำหรับเก็บข้อความ เงื่อนงำ ความลับต่างๆ ในลักษณะ
      ไทม์แคปซูล ซึ่งได้ถูกบรรจุไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966 และเมื่อถึงปี ค.ศ. 2021 ถึงจะนำออกมาเปิดดูข้อความด้านใน
    • HIPPOCRATIC OATH-LATIN สัญลักษณ์งูพันคบเพลิง สัญลักษณ์ของการสาธารณสุขทั่วโลก
    • รูปภาพบันทึกประวัติการต้อนรับนายกรัฐมนตรี ลี กวน ยู เมื่อครั้งที่เข้ารับการรักษาด้วย
      โรคปลายประสาทอักเสบ
    • อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการแพทย์ในยุคเริ่มแรก อาทิ กระเป๋าใส่เครื่องมือแพทย์สำหรับทำคลอด เข็มฉีดยา ฯลฯ

สรุปผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาคน พัฒนางาน เสริมสร้างค่านิยมองค์กร ณ ประเทศสิงคโปร์

ผู้จัดการความรู้ อ.วราภรณ์ จรเจริญ

ผู้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้

1. นายสิรวิชญ์            ฟั่นแจ้ง

2. นายสมพงษ์             มังคลสุ

3. นายทินกร               สิทธิบุศย์

4. นายบัวผัน              อินบำรุง

5. นายวรกร               อิ่มแมน

6. นายชั้น                 ฤกษ์ภิกขุณี

7. นายประดิษฐ์            สาคะเรศ

8. นายบุญสม             โพธิ

9. นายบุญจันทร์          ทาโพทอง

10. นายธนกฤต           ปานสวรรค์

11. นายวิเชียน            กระต่ายจันทร์

1. สรุปสิ่งที่ได้จากการศึกษาดูงาน จุดเด่น จุดด้อย เช่น ด้านความสะอาด การบริหารจัดการ การมีจิตสำนึก การบริการ การใช้เทคโนโลยี การปฏิบัติตามกฎระเบียบของประชาชน เป็นต้น

จุดเด่น – ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศ อยู่ในจุดยุทธศาสตร์เป็นศูนย์กลางการเดินเรือ (เอื้อต่อการขนส่ง)

- การเมืองมีเสถียรภาพ

- มีแรงงานที่มีทักษะ มีการศึกษาและภาษาดี

- ความเป็นระเบียบการปฏิบัติตัวของประชาชนชาวสิงคโปร์ที่มีจิตสำนึกร่วมกัน

- การจัดระเบียบสังคม/สิ่งปลูกสร้าง

- ความสะอาดของอาคารและสภาพแวดล้อม

- กฎหมายบ้านเมืองที่เคร่งครัด

- การจัดการด้านการจราจรที่เน้นความปลอดภัยทุกที่

- การจัดการด้านการศึกษาของประชากร

- การใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการด้านบุคคลและวัสดุ

- การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของคนหลายเผ่าพันธุ์/เชื้อชาติ

- ความพยายามในการพัฒนาประเทศในขณะที่ขาดแคลนทรัพยากรทุกด้าน จนเป็นประเทศในระดับนำทั้งด้านเทคโนโลยีและการศึกษา

- ประชากรมีจิตสำนึกในการรักธรรมชาติ

จุดด้อย – ขาดแรงงานที่เป็นแรงงานระดับล่าง

- มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจหรือค่าครองชีพค่อนข้างสูง

- มีพื้นที่จำกัดในการทำกิจกรรมสื่อที่เป็นธรรมชาติมีน้อย

2. แนวคิดที่จะนำสิ่งที่ได้รับจากการศึกษาดูงานไปเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับงานของตนเอง

งานประกันคุณภาพ

- กำหนดแผนงาน ขั้นตอนและกระบวนการที่ชัดเจนของงานประกันคุณภาพ

- สร้างความรู้ความเข้าใจระบบการประกันคุณภาพให้แก่บุคลากรทุกระดับ

- นำผลการตรวจประเมินไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

- กระตุ้นให้บุคลากรรู้จักหน้าที่ รู้จักการวางแผนการดำเนินการ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ

         งานสิ่งแวดล้อมและความสะอาด

- การจัดสิ่งแวดล้อมที่สวยงามและปลอดภัย

- การดูแลรักษาต้นไม้โดยเฉพาะอนุรักษ์ต้นไม้ที่เก่าแก่และหายาก

- การรักษาความสะอาดของสถานที่ทุกจุด

- การรักษาระเบียบวินัยของวิทยาลัยและปฏิบัติหน้าที่ในทิศทางเดียวกัน

         งานยานพาหนะ

- ความมีระเบียบวินัยในการใช้รถใช้ถนน

- การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับอย่างเคร่งครัด

- จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดและรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย

3. การจัดโครงการนี้ได้เสริมสร้างค่านิยมองค์กรและอัตลักษณ์ของวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี อย่างไร

ค่านิยม – ความรักความสามัคคีในหมู่คณะ

- การมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน

- การดูแลช่วยเหลือกันในยามเดือนร้อน

- การเรียนรู้สิ่งต่างๆทุกด้านในการศึกษาดูงาน

- การรู้จักแบ่งปันข้าวของเครื่องใช้ในคณะศึกษาดูงาน

- การแบ่งปันประสบการณ์ให้บุคคลอื่นได้ร่วมเรียนรู้

อัตลักษณ์ – การให้บริการด้วยความเป็นมิตร ตามความต้องการของผู้รับบริการ

- การยกย่องให้เกียรติผู้อื่น การเห็นคุณค่าของแต่ละบุคคล

นายสิรวิชญ์  ฟั่นแจ้ง  ผู้บันทึก