การสอนแนะ (coaching)
วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
รายงานการประชุม COP ภาควิชาบริหารและพื้นฐานการพยาบาล
ครั้งที่ 1 วันที่ 29 เมษายน 2556 เวลา 14.30 – 15.30 น.
ณ ห้องรับรอง อาคารอำนวยการชั้น 1 วพ.พระปกเกล้า จันทบุรี
- เรื่อง การสอนแนะ (coaching)
- วัตถุประสงค์ในการดำเนินการครั้งนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการนำการสอนแนะไปใช้ในการสอนภาคทดลองในรายวิชาที่ภาควิชารับผิดชอบ
- ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 12 คน ได้แก่
- อ. จิตติยา สมบัติบูรณ์ ประธานกลุ่ม
- ดร.ศรีสกุล เฉียบแหลม สมาชิก
- อ. พุฒตาล มีสรรพวงศ์ สมาชิก
- อ. ภโวทัย พาสนาโสภณ สมาชิก
- อ. สุมาลี ราชนิยม สมาชิก
- อ. โสภา ลี้ศิริวัฒนกุล สมาชิก
- อ. คณิสร แก้วแดง สมาชิก
- อ. นิศารัตน์ รวมวงษ์ สมาชิก
- อ. วิภารัตน์ ภิบาลวงษ์ สมาชิก
- อ. บุษยารัตน์ ลอยศักดิ์ สมาชิก
- อ. จันจิรา หินขาว สมาชิก
- อ. รัชชนก สิทธิเวช เลขานุการ
ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรมครั้งนี้
1. คุณลักษณะของผู้สอนแนะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การสอนแนะประสบความสำเร็จได้
2. ข้อควรระวังในการสอนแนะเป็นสิ่งที่ผู้สอนแนะควรมีความตระหนักและพึงระลึกอยู่เสมอ
แนวทางการนำความรู้ไปใช้
นำวิธีการสอนแนะไปใช้ในการสอนภาคทดลอง ปีการศึกษา 2556 จำนวน 2 วิชา ได้แก่ วิชาหลักการและเทคนิคการพยาบาล และวิชาการประเมินสุขภาพ โดยผู้สอนที่เป็นอาจารย์ในภาควิชา ที่สอนภาคทดลองใน 2 วิชานี้ ควรมีคุณลักษณะของผู้สอนแนะและมีความตระหนักถึงข้อควรระวังใน การสอนแนะ
จบกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 1 เวลา 15.30 น.
(นางรัชชนก สิทธิเวช) ผู้จดบันทึก
พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
เห็นด้วยกับคุณลักษณะต่างๆที่ผู้สอนแนะควรจะมีตามที่ อ.รัชชนก นำเสนอค่ะ…ในความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าสิ่งสำคัญอีกสองประการที่ครู(ผู้สอนแนะ)ควรมี ประการแรก คือ การยอมรับในเรื่องความแตกต่างของผู้เรียนแต่ละคน อันจะนำมาซึ่งความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจในขณะที่พบปัญหาในระหว่างการ Coaching เช่น นักศึกษาไม่ใส่ใจ ไม่รับผิดชอบ เรียนรู้ได้ช้า ทำไม่ถูกต้อง ฯลฯ ผู้สอนแนะจะได้ไม่หงุดหงืดค่ะ ประการที่สองที่ต่อเนื่องจากปัญหาที่อาจพบได้บ่อยในขณะสอนแนะตามที่ได้กล่าวมา มักทำให้ผูสอนแนะะหงุดหงิด ไม่พอใจ บางครั้งอาจรู้สึกโกรธ ผู้สอนแนะจึงควรมีสติตามรู้อารมณ์ตัวเองให้เร็วที่สุด เพราะหากขาดคุณลักษณะ 2 ประการดังที่ได้กล่าวมา อาจจะทำให้ผู้สอนแนะมีสีหน้า ท่าทางและการแสดงออกที่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกกลัว วิตกกังวล ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ค่ะ
เห็นด้วยกับอาจารยืรัชชนกค่ะ ความใจเย็นกับนักศึกษาช่วยได้แต่เราจะต้องเพิ่มเรื่องของการกระตุ้นความคิดและฟังเหตุผลกับนักศึกษาด้วย เพราะในการตอบคำถามของนักศึกษาหากเราไม่ฟังสิ่งที่นศ.คิดหรือไม่ฟังเหตุผลของนักศึกษาเราอาจจะตัดสินว่าความคิดของนักศึกษาผิดทั้งๆที่ความเป็นจริงความคิดนั้นถูกต้องแต่ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด เราจะต้องเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกกระตุ้นความคิดค่ะ เพราะเคยมีประสบการณ์สอนนักศึกษาในเรื่องของการฉีดยาเข้าชั้นผิวหนัง เคยถามนักศึกษาว่าใช้สำลีกี่ก้อน นักศึกษา ตอบตั้งแต่ 1-3 ก้อน หากเราตัดสินเค้าเลยตอนนั้นอาจจะบอกว่า3 ก้อนถูก เพราะเช็ดขวดยา 1 ก้อน เช็ดที่บริเวณที่ฉีด1 ก้อน และหลังจากฉีดหากมีเลือดออกให้เช็ดเลือดอีก 1 ก้อน แต่ความจริงแล้วคนที่ตอบ 1 ก้อนอาจจะคิดเฉพาะตอนเตรียมยา คนที่ตอบ 2 ก้อนอาจคิดแค่ เตรียมเช็ดขวดยาและเช็ดผิวหนังซึ่งเหตุผลที่เค้าบอกมาไม่ผิดเลยค่ะแต่ไม่ครบถ้วนทั้งกระบวนการต่างหากค่ะ