เมนูหลัก
หน้าหลัก
ข้อมูลการประกันคุณภาพ
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากร
ข้อมูลเกี่ยวกับนักศึกษา
ข้อมูลการพัฒนาบุคลากร
ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาการ
ข้อมูลครุภัณฑ์หน่วยงาน
ข้อมูลอาคารและสิ่งก่อสร้าง
ข้อมูลผลงานประเภทต่างๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน
ปฏิทินการแจ้งซ่อมครุภัณฑ์
ปฏิทินการขอใช้รถยนต์ราชการ
ปฏิทินการขอใช้ห้องประชุม
แผนภูมิแสดงข้อมูลงานวิจัย
แผนภูมิแสดงข้อมูลครุภัณฑ์
แผนภูมิแสดงแผนปฎิบัติการ
ดาว์โหลดเอกสารประเภทต่างๆ
สายตรงผู้อำนวยการ
   
เข้าระบบ
   
 
จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม
 
counter
   
หน้าหลัก » ข้อมูลผลงาน » ข้อมูลโครงการผลงาน
 
‹ ย้อนกลับ
 
หน่วยงาน : วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
ประเภทผลงาน : โครงการวิจัย
ชื่อผลงาน: ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเองกับพฤติกรรม การปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอดของมารดาครรภ์แรก
  เป็นผลงานที่อยู่ในแผนส่งเสริมการนำเสนอผลงานวิชาการของวิทยาลัย
  ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากวิทยาลัยและ/หรือหน่วยงานอื่นๆ ในการไปนำเสนอผลงานวิชาการ
ชื่อผู้ทำผลงาน    
   
นาง จันทร์เพ็ญ  อามพัฒน์ หัวหน้า
นาง อารีรัตน์  วิเชียรประภา ผู้ร่วม
นางสาว เพ็ญนภา  พิสัยพันธุ์ ผู้ร่วม
กลุ่มสาขาวิชาการ : ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์
    ความสำคัญและที่มาของปัญหา :
    การคลอดเป็นการเปลี่ยนแปลงตามระยะพัฒนาการที่สำคัญในช่วงชีวิตหนึ่งของสตรี เป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและบุตรได้ ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะรับรู้ว่าการคลอดก่อให้เกิดความเจ็บปวดมากที่สุด และเกิดความรู้สึกกลัว วิตกกังวลต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและบุตรในระยะต่างๆ ของการคลอดว่าจะเป็นอย่างไร มีความกลัวต่อความเจ็บปวดจาก การคลอด กลัวตนเองและบุตรจะได้รับอันตราย กลัวตาย กลัวบุตรผิดปกติหรือพิการ กลัวการถูกทอดทิ้ง ให้อยู่คนเดียวในห้องคลอด กลัวสิ่งแวดล้อมในห้องคลอด กลัวเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ตลอดจนกลัวบุคลากรทางการพยาบาลซึ่งเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน กลัวว่าจะไม่สามารถเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระยะคลอด ประกอบกับการที่ได้ยินได้ฟังเหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการคลอดจากคำบอกเล่าของบุคคลต่างๆ เช่น มารดา ผู้ที่เคยผ่านการคลอดมาก่อน หรือได้ยินจากสื่อต่างๆ ซึ่งมีทั้งด้านบวกและด้านลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นสตรีที่ตั้งครรภ์เป็นครั้งแรกซึ่งยังไม่เคยผ่านประสบการณ์การคลอดมาก่อน จะส่งผลให้เกิดประสบการณ์ทางลบได้ จากผลการวิจัยต่างๆ ได้กล่าวถึงการรับรู้ความสามารถของตนเองในการเผชิญกับการเจ็บครรภ์คลอดว่าเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ส่งผลให้สตรีที่ผ่านการคลอดเกิดประสบการณ์ทางบวกหรือทางลบต่อการคลอดบุตร การรับรู้ความสามารถของตนเองในการเผชิญกับการเจ็บครรภ์คลอดไม่ใช่เป็นเพียงการรับรู้ความสามารถทางด้านร่างกาย แต่รวมถึงความรู้สึกนึกคิดที่สตรีนั้นมีต่อการคลอดด้วย (Drummond & Rickwood, 1997) สำหรับการคลอดนั้น การที่มารดาจะเรียนรู้และมีพฤติกรรมการปฏิบัติตัวในระยะคลอดได้ประสบผลสำเร็จหรือปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องเกิดจากกระบวนการคิดของมารดาที่รับรู้ หรือมี ความเชื่อ และยอมรับว่าพฤติกรรมการปฏิบัติตัวในระยะคลอดที่จะปฏิบัตินั้นสามารถทำได้ และให้ผลดีตามที่รู้สึกพึงพอใจที่จะทำเพื่อการมีภาวะสุขภาพที่ดี สอดคล้องกับแนวคิดของแบนดูรา (Bandura, 1986) ที่ว่าการรับรู้ความสามารถของตนเองเป็นกระบวนการคิดของมนุษย์ที่ยอมรับว่าการส่งเสริมให้มนุษย์เกิดแรงจูงใจ พอใจที่จะกระทำเพื่อควบคุมสถานการณ์ที่มีผลต่อสวัสดิภาพของตนเอง และมีอิทธิพลต่อ การเลือกกระทำพฤติกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เป็นตัวเชื่อมระหว่างการรับรู้กับพฤติกรรมของบุคคล ดังนั้น การรับรู้ความสามารถของตนเอง (perceived self-efficacy) จึงเป็นตัวกำหนดการแสดงของพฤติกรรมของมารดาในการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอด (health behavior during childbirth) ให้เหมาะสม ทั้งในด้านการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล การบรรเทาความเจ็บปวด การปฏิบัติตัวในระยะที่ 2 ของการคลอด และการประคับประคองจิตใจ เพื่อให้สามารถดำเนินการคลอดได้อย่างปลอดภัย มีภาวะสุขภาพที่ดีทั้งมารดาและทารก ซึ่งการรับรู้ความสามารถของตนเองของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบุคคลเกี่ยวกับพฤติกรรมในสถานการณ์นั้น ซึ่งจะผันแปรไปตามองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ (Bandura, 1997) ได้แก่ 1) ความยากง่ายของการกระทำ (magnitude or level) ซึ่งเป็นความคาดหวังของบุคคลในการกระทำกิจกรรม และจะผันแปรตามความยากง่ายของสิ่งที่จะกระทำ 2) ความเข้มแข็งหรือความมั่นใจ (strength) ซึ่งเป็นความเชื่อมั่นของบุคคลว่าตนมีความสามารถที่จะกระทำกิจกรรมนั้นได้สำเร็จ ถ้าความเชื่อในความสามารถของตนเองมีความเข้มแข็งน้อย บุคคลจะไม่มีความมั่นใจในความสามารถของตนเอง เมื่อประสบกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ส่วนบุคคลที่มีความเข้มแข็งหรือ ความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองสูงจะมีความพยายามที่จะกระทำสิ่งนั้นให้ประสบความสำเร็จ และ 3) ความคล้ายหรือใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่เคยกระทำ (generality) ซึ่งเป็นความคาดหวังในความสามารถของตนเองในการนำมาปฏิบัติในสถานการณ์นั้น ซึ่งสามารถใช้ได้ทั่วๆ ไปในสถานการณ์ต่างๆ หลายๆ สถานการณ์ การที่บุคคลจะสร้างการรับรู้หรือพัฒนาความสามารถของตนเองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นนั้น ต้องเกิดจากการเรียนรู้จากแหล่งข้อมูล 4 ประการ ได้แก่ 1) ประสบการณ์ความสำเร็จของการปฏิบัติ ทั้งประสบการณ์ตรงหรือประสบการณ์อื่นๆ ที่เคยกระทำจนสำเร็จมาแล้ว ทำให้บุคคลเกิดความมั่นใจในการกระทำเมื่ออยู่ในสถานการณ์นั้น 2) การสังเกตประสบการณ์ของผู้อื่น ทำให้บุคคลรับรู้เกี่ยวกับความสามารถของตนเองเพิ่มขึ้น โดยผ่านการเปรียบเทียบระหว่างตนเองกับผู้อื่น บุคคลจะบอกตนเองได้ว่าถ้าผู้อื่นสามารถกระทำจนสำเร็จได้ เขาจะต้องสามารถกระทำได้ตามแบบอย่างนั้นเช่นกัน ถ้ามีความตั้งใจและความพยายาม 3) การพูดชักจูง การได้รับการแนะนำชักจูงจากผู้อื่นจะช่วยให้บุคคลมีกำลังใจ เชื่อมั่นในการกระทำพฤติกรรมต่างๆ ให้สำเร็จได้ ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับคำแนะนำจากบุคคลอื่นจะเกิดความมั่นใจและมีพฤติกรรมด้านสุขภาพที่เหมาะสม และจากการศึกษาของจูลี (Julie, 1994) พบว่าความมั่นใจของมารดาในการแสดงบทบาทมารดาส่วนใหญ่ได้รับคำแนะนำชักจูงจากมารดาและบุคลากรทีมสุขภาพ และ 4) สภาวะทางร่างกายและอารมณ์ ซึ่งเป็นสภาวะที่ร่างกายเกิดความตื่นตัวจากการเปลี่ยนแปลงเป็นความรู้สึก อารมณ์ของบุคคลเมื่ออยู่ในสถานการณ์นั้น จากผู้หญิงคนหนึ่งมาสู่การเป็นมารดา ซึ่งจะเห็นได้ว่า การประเมินความสามารถของตนเองเป็นการรับรู้ที่ต้องผ่านกระบวนการความรู้สึกนึกคิดของตนเอง และข้อมูลปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดและการกระทำ ดังนั้น คณะผู้วิจัยในฐานะอาจารย์พยาบาลและมีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลมารดาครรภ์แรกในระหว่างการสอนนักศึกษาภาคปฏิบัติในหอผู้ป่วย จึงมีความต้องการศึกษาถึงการรับรู้ความสามารถ ของตนเองในส่วนที่เป็นความคาดหวัง 3 ประการ ได้แก่ ความยากง่าย ความเข้มแข็งหรือความมั่นใจ และความคล้ายหรือความใกล้กับสถานการณ์ที่เคยกระทำ อันเกิดจากกระบวนการคิดของมารดา กับพฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอด เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเอง กับพฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งผลการวิจัยที่ได้จะนำไปใช้เป็นแนวทางในการทำความเข้าใจ และพัฒนาการรับรู้ความสามารถของมารดาครรภ์แรกให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพต่อไป
    วัตถุประสงค์ของโครงการ
    เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเอง กับพฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอดของมารดาครรภ์แรก
    ขอบเขตของโครงการผลงาน
   
    ผลที่คาดว่าจะได้รับ
   
     นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
  :
    บทคัดย่อ
   

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเอง กับพฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอดของมารดาครรภ์แรก กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาครรภ์แรกที่มาคลอดที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี จำนวน 100 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามการรับรู้ความสามารถของตนเองในมารดาครรภ์แรก และแบบสอบถามพฤติกรรม การปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอด ซึ่งคณะผู้วิจัยดัดแปลงมาจากแบบสอบถามการรับรู้ความสามารถของตนเองในมารดาวัยรุ่น ของสุพรรณี กัณหดิลก (2542) หาความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามการรับรู้ความสามารถของตนเองของมารดาครรภ์แรก และแบบสอบถามพฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอดของมารดาครรภ์แรก ด้วยวิธีการของครอนบาค ได้ค่าเท่ากับ .85 และ .92 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่าการรับรู้ความสามารถของตนเองโดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอดของกลุ่มตัวอย่าง (r = .469, p < .05) เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่าการรับรู้ความสามารถของตนเองด้านความเข้มแข็งหรือความมั่นใจ และด้านความคล้ายหรือใกล้เคียงกับ สถานการณ์ที่เคยกระทำ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอดของกลุ่มตัวอย่าง (r = .389, p < .05; r = .365, p < .05) ส่วนการรับรู้ความสามารถของตนเองด้านความยากง่ายของการกระทำไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอดของกลุ่มตัวอย่าง
ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้แนะว่าพยาบาลควรประเมินการรับรู้ความสามารถของตนเองของมารดา ครรภ์แรกในระยะคลอดตั้งแต่มาฝากครรภ์ครั้งแรก และบูรณาการการรับรู้ความสามารถของตนเองใน ทุกขั้นตอนของกระบวนการพยาบาล ควรเสริมสร้างประสบการณ์ของการเป็นมารดาให้มีความคล้ายและสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตที่มารดาครรภ์แรกสามารถปฏิบัติได้จริง
คำสำคัญ : การรับรู้ความสามารถของตนเอง พฤติกรรมการปฏิบัติตัวด้านสุขภาพในระยะคลอด มารดาครรภ์แรก

ดาว์โหลดไฟล์บทคัดย่อ :
 
  การเผยแพร่งานวิจัยการประชุม
  การเผยแพร่บทความวิจัย  
  การเผยแพร่บทความวิชาการ  
อ้างจากแผนปฏิบัติการ :
     บูรณาการกับโครงการบริการวิชาการ
     ความร่วมมืองานวิจัยกับบุคคลภายนอก
บูรณาการกับรายวิชา :
ปีปฏิทิน :
ปีการศึกษา :
ปีงบประมาณ :
วันที่เริ่ม :    วันที่แล้วเสร็จ :
แหล่งเงินทุน  
ภายใน จำนวนเงิน บาท
ภายนอก จำนวนเงิน บาท ระบุ
รวมจำนวนเงินทุน บาท
   
  ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูล จำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด Download
ทั้งหมด 0 รายการ
 
Copyright©Prabormajchannok Instiute of Halth Workforce Development 2009  All rights reserved : Version 7.6